ถือว่าเป็นข่าวที่สร้างความฮือฮาในวงการเกมไม่น้อยทีเดียวสำหรับเครื่องเล่นเกมที่ชื่อว่า Steam Deck ที่ชูโรงเรื่องการได้เล่นเกมคอมพิวเตอร์ระดับ AAA ในรูปแบบพกพา ซึ่งต้องบอกว่านี่เป็นไอเดียที่ดี แต่ก็ต้องมาดูกันว่า การนำเกมระดับนั้นมาเล่นบนเครื่องพกพาอย่างนี้ สุดท้ายมันจะดีหรือไม่ ไปตามดูรีวิวเครื่อง Steam Deck กัน

สเปคเครื่อง Steam Deck

ทีนี้เมื่อชูโรงออกมาเรื่องการนำเกมคอมพิวเตอร์มาไว้บนเครื่องพกพาได้ นั่นเท่ากับว่า เรื่องสเปคต้องเป็นของจริง ไม่งั้นเอาไม่อยู่ ตามที่ข่าวออกมา เป็นการนำ เอพียู จากค่าย เอเอ็มดีมาใช้งาน โดยเป็นรูปแบบสถาปัตยกรรม เซ็นทู คัสตอมสี่แกน รวมถึงมีการใช้งานร่วมกับ จีพียู RDNA2 แรมมาแบบ LPDDR5 ขนาด 16 GB เอาแค่เบื้องต้นถือว่าสเปคมาโหด พร้อมที่จะรองรับเกมระดับ A จนถึง AAA ของเกมคอมพิวเตอร์พีซีได้เหมือนกัน หน้าจอมาเป็นแบบ สัมผัส LCD –นาด 7 นิ้ว มีปุ่ม ABXY มีปุ่ม D-Pad มีปุ่ม L1, R1,L2, R2 มีลำโพง ไมค์ในตัว ถือว่าทั้งหมดนี้คือคอมพิวเตอร์ขนาดย่อมๆ เครื่องหนึ่งเลยทีเดียว ถือว่าสเปคผ่านและรองรับเกมได้จริง

ออกแบบและออกแบบ

เรื่องเสียงถือว่าออกมาครบถ้วนทุกลำโพง ซ้ายขวา เสียงดีมาก ทำให้การเล่นมีอรรถรสยิ่งขึ้น ส่วนเรื่องไมค์ก็สามารถสื่อสารกับเพื่อนในทีมได้จริงไม่อู้อี้ จนเสียการเล่น มาว่ากันเรื่องปุ่ม อันนี้เลย ไม่ได้ทำร้ายนิ้วคนเล่นเท่าไรด้านซ้ายมือที่มีปุ่มบังคับทิศทางทั้งแบบขึ้นลงซ้ายขวาปุ่ม D-pad กดแล้วนุ่มมือ ตอบสนองดี ปุ่ม ABXY ทางฝั่งขวาก็กดแล้วรองรับน้ำหนักนิ้วได้ดีเลย ทั้งรูปแบบการ Steam Deck หากเรามองว่าเป็นเครื่องเกมพกพา ความสวยเรามองว่าทีหลัง เรื่องระบบการใช้งาน น่าจะมาก่อน แน่นอนว่ามองจากสิ่งที่ออกแบบมานั้นตอบสนองเกมเมอร์อย่างแท้จริง กดค้าง การกดรัว หรือ กดทั้งสองแบบรองรับและคืนตัวได้เร็ว ทำให้สายกดปุ่มทำงานได้ดี ไม่เพียงเท่านั้น ตัวเครื่องยังมีการตั้งปุ่มพิเศษด้านหลังตรงตัวจับอีก นั่นทำให้ใครที่เล่นเกมแล้วต้องการวางปุ่ม short cut เยอะๆ เพื่อวางสกิลหรือกดไอเท็มที่หลากหลายก็กดได้สบายมีเหลือเฟือ ส่วนความสวยงามเราว่าธรรมดาไม่ได้เด่นมาก แต่มองว่าอาจจะมีตัวเสริมสำหรับตกแต่งออกมาทีหลัง ไม่ว่าจะเป็นเคสเครื่องเคสปุ่มนั่นเอง

หน้าจอ

อีกหนึ่งรูปแบบการทำงาน ที่เราเชื่อว่าสายเกมอาจจะถูกใจ ก็คือ เราสามารถเอาเครื่อง Steam Deck ไปต่อจอแล้วเล่นผ่านระบบคีย์บอร์ด เมาส์ ได้เลย หรือจะแปลงเป็นคอมพิวเตอร์ขนาดย่อยเพื่อทำงานก็ได้เหมือนกัน อันนี้มันจะเหมาะมากหากเราพกพาไปเล่นที่ไหน แล้วเกิดต้องทำงานด่วน หรือ อาจจะต้องการเล่นบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ที่ใหญ่กว่าก็ต่อได้ง่ายเลย น่าจะถูกใจพอสมควร (แต่เหมาะกับการเล่นชั่วคราวเท่านั้น ไม่เหมาะกับเล่นถาวร ถ้าทำแบบนั้นเล่นบนคอมพิวเตอร์ดีกว่า)

เล่นต่อได้แม้ว่าอยู่ที่ไหน

อีกจุดหนึ่งที่ Steam Deck น่าจะตอบโจทย์ได้ดีเลย เป็นเรื่อง steam cloud พูดให้ง่ายมันก็คือระบบเซฟเกมบนคลาวด์นั่นเอง มันดีตรงที่หากเราเล่นเกมนี้ค้างไว้ที่บ้าน แล้วระหว่างการเดินทางรถติดมาก ไปไหนก็ลำบาก เราสามารถหยิบเครื่องนี้มาเล่นต่อได้เลย พอกลับบ้านก็เล่นที่ค้างต่อไว้ได้เลยไม่เสียเวลา ยิ่งคนที่ต้องไปไหนมาไหนต่างจังหวัดบ่อย แล้วคิดถึงเกมที่เล่นค้างไว้อยู่ ตัวนี้ตอบโจทย์

ต้องยอมรับว่าการออกมาของเครื่อง Steam Deck มีสะเทือนคู่แข่งโดยตรงอย่าง สวิตช์ ของค่ายปู่ Nintendo ด้วยเหมือนกัน ก็ต้องดูว่า จะมีการแก้เกมอย่างไร แม้ว่าจะปล่อยตัวใหม่อย่าง เวอร์ชั่น OLED ออกมาก็ตาม แต่เราเชื่อว่า Steam Deck เองหากพัฒนาต่อเนื่อง น่าจะถูกใจคอเกมในบ้านเราเยอะเช่นเดียวกัน