โทรศัทพ์มือถือชอบค้าง ดับ หรือเปิดไม่ติด เป็นปัญหาที่ผู้ใช้งานสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตหลายๆ คนต้องประสบพบเจอกันดีอยู่แล้ว ซึ่งปัญหาส่วนใหญ่นั้นก็มักจะมาจากระบบการทำงาน OS ที่เกิดสภาวะ Overflow หรือมีอาการผิดพลาดของตัวซอร์ฟแวร์บางประเภทในเครื่อง แม้แต่ปัญหาทางด้านฮาร์ทแวร์ในเครื่อง เช่น แบตเตอรี่ เป็นต้น
ในวันนี้ทีมงาน Baaitz ขอนำเสนอ วิธีการแก้ปัญหา สมาร์ทโฟน ระบบ Android เครื่องค้าง เปิดไม่ติด ในวิธีที่ถูกต้อง แบบง่ายๆ ด้วยตัวเอง ซึ่งขั้นตอนและวิธีการแก้ไขปัญหานั้น สามารถตรวจสอบและเรียบเรียงได้เป็นข้อๆ ต่อไปนี้
วิธีการแก้ปัญหา สมาร์ทโฟน ระบบ Android เครื่องดับ เปิดไม่ติด หรือมือถือค้าง
-
กระตุ้นการทำงานด้วยการชาร์จ
ควรตรวจสอบพลังงานแบตฯของสมาร์ทโฟนดูก่อนว่าหมดหรือเปล่า โดยลองเอาเครื่องโทรศัพท์มือถือของคุณมาเสีบเข้ากับสายชาร์ตแบตและให้รอสักครู่ ซึ่งปกติแล้วสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตเสียบเข้ากับสายชาร์ท ไม่นานเครื่องก็ทำการเปิดขึ้นมาเอง หรือไม่ก็ขึ้นหน้าจอสถานะชาร์ตแบตเตอรี่มาให้เห็น
-
ถอดแบตเตอรี่เพื่อทำการรีเซตเครื่อง
ในกรณีที่โทรศัพท์มือถือใช้แบตเตอรี่ที่ไม่ใช่ประเภท Buid in (แบตฯที่ไม่สามารถถอดออกมาได้) ให้ผู้ใช้งานปิดเครื่องสมาร์ทโฟน และรอจนกว่าเครื่องจะดับลงเรียบร้อย จากนั้นให้แกะฝาจากทางด้านหลังออก และทำการถอดแบตเตอรี่ออก รอสักพักแล้วจึงนำแบตฯใส่เข้าไปใหม่อีกครั้งและเปิดเครื่อง
-
Reboot เครื่อง โดย Download Mode
หากสมาร์ทโฟนในระบบ Android ไม่สามารถทำการถอดแบตเตอร์รี่ได้ แต่ดันเกิดอาการเครื่องค้างขึ้น กดใช้งานที่หน้าจอก็ไม่ได้ กดปุ่มปิดเครื่องค้างไว้ก็ไม่ทำงาน ควรจะทำอย่างไร
- เข้า Download Mode ด้วยการกดปุ่ม ลดเสียง (Volume Down) + ปุ่ม Home + ปุ่ม Power ค้างไว้พร้อมกันจนเครื่องสั่น (ส่วนใหญ่แล้วโหมดนี้มักจะเอาไว้แฟลชรอมหรือรูทเครื่อง)
- หลังจากที่มือถือสั่นแล้ว หน้าจอของสมาร์ทโฟนจะแสดงข้อความว่า ต้องการเข้าสู่ Download Mode หรือไม่ ให้กดปุ่มลดเสียง (Volume Down) เพื่อยกเลิกการเข้าสู่ Download Mode จากนั้นโทรศัพท์มือถือของคุณจะทำการ Restart เพื่อทำการเปิดเครื่องขึ้นใหม่
หากผู้ใช้สมาร์ทโฟนท่านใดลองทำตามวิธีดังกล่าวแล้ว แต่ยังไม่เห็นผล ขอแนะนำให้นำสมาร์ทโฟนของคุณเข้าศูนย์หรือปรึกษากับผู้ที่มีความเชี่ยวชาญ เพราะหากสมาร์ทโฟนยังอยู่ในช่วงประกันสินค้านั้น ก็จะไม่เสียงค่าใช้จ่าย เพราะเคยเกิด