ในปัจจุบันการใช้งานสมาร์ทโฟนถือเป็นเรื่องปกติของคนในสังคม ซึ่งส่วนใหญ่แล้วผู้ใช้งานก็มักที่จะให้ความสำคัญในเรื่องของการถนอมแบตเตอรี่เป็นอย่างมาก เพื่อเพิ่มอายุการใช้งานของโทรศัพท์มือถือ แต่จะมีใครรู้ว่าสิ่งที่ได้ปฏิบัติตามคำแนะนำจากบุคคลอื่นๆ อยู่นั้น เป็นสิ่งที่ถูกต้องหรือไม่ เนื่องจากเทคโนโลยีในยุคสมัยนี้ได้พัฒนาไปไกลแบบก้าวกระโดดเป็นอย่างมาก ทำให้หลายๆ ความเชื่อที่เคยใช้งานได้จริง กลายเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอีกต่อไป และนี่คือ 8 เคล็ดลับ ที่ควรทำต่อแบตเตอรี่ ในสมาร์โฟนของคุณ

1. สมาร์ทโฟนเครื่องใหม่ไม่จำเป็นชาร์จแบตฯ นาน 8 ชั่วโมง

การชาร์จแบตเตอรี่นานถึง 8-10 ชั่วโมง ในครั้งแรกของการใช้งานสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ ถือเป็นเรื่องที่ไม่ไม่จำเป็น เนื่องจากในโทรศัพท์มือถือรุ่นเก่าๆ จะมีระบบ Memory Effect ที่จะมีหน้าที่คอยบันทึกเก็บความจุสูงสุด และจดจำว่าสมาร์ทโฟนรุ่นนั้นๆ ควรที่จะเก็บพลังงานไว้จำนวนเท่าไหร่ในการใช้งานครั้งต่อๆ ไป จึงได้มีคำแนะนำให้ชาร์จแบตเตอรี่ทิ้งไว้ให้ครบ 8-10 ชั่วโมง  เพื่อให้แบตเตอรี่ทำการบันทึกและจดจำพลังงานให้ได้มากที่สุดนั่นเอง

แต่สำหรับแบตเตอรี่รุ่นใหม่อย่าง Litthium-Ion มีเทคโนโลยีที่ดียิ่งขึ้น และไม่จำเป็นต้องชาร์จแบตเป็นระยะเวลานานๆ เพราะเพียงแค่ผู้ใช้งานทำการเปิดเครื่องก็สามารถที่จะใช้งานได้ทันที แต่แบตเตอรี่รุ่นใหม่นี้ก็ไม่สมควรที่จะใช้งานจนแบตหมด 0% เพราะอาจจะทำให้แบตเตอรี่เสื่อมสภาพเร็วยิ่งขึ้น

2. สามารถชาร์จแบตเตอรี่ทิ้งไว้ในเวลากลางคืน

จากเทคโนโลยีในปัจจุบันที่มีความพัฒนาก้าวหน้าไปอย่างมาก ทำให้สมาร์ทโฟนในยุคนี้สามารถที่จะชาร์จแบตทิ้งไว้ได้ตลอดทั้งคืน เนื่องจากสมาร์ทโฟนจะหยุดชาร์จไฟด้วยแบบอัตโนมัติหลังจากที่ชาร์จเต็ม 100% เรียบร้อยแล้ว แต่ถ้าหากคุณใช้งานสมาร์ทโฟนในระหว่างที่กำลังชาร์จอยู่จนทำให้แบตเตอรี่ลดลง เครื่องก็จะกลับมาชาร์จไฟเองทันที ซึ่งในเรื่อวนี้ได้รับการวิจัยจากวิศวกรไฟฟ้าจากบริษัท Samsung อย่าง Sergio Flores เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

3. ชาร์จแบตหลังเครื่องดับ ไม่ส่งผลกระทบต่อสมาร์ทโฟน

หากคุณใช้งานสมาร์ทโฟนอย่างหนักจนแบตเตอรี่เป็น 0% ไม่จำเป็นต้องกังวลว่าโทรศัพท์มือถือจะชำรุดเร็วขึ้น ซึ่งเมื่อก่อนการใช้งานสมาร์ทโฟนอาจจะจำเป็นที่ไม่ควรใช้งานจนทำให้แบตเตอรี่เหลือ 0% เพราะตัวแบตฯ Lithium-ion ยังคงทำงานเข้ากับตัวระบบของเครื่องสมาร์ทโฟนได้ไม่ดีเท่าที่ควร ทำให้เกิดปัญหาและข้อผิดพลาดอย่างบ่อยครั้ง

แต่ในปัจจุบันทางผู้ผลิตเครื่องมือสื่อสาร, สมาร์โฟน, รวมไปถึงเทคโนโลยีทุกชนิด ของทุกๆ ค่ายต่างพากันคิดค้น, ปรับปรุงและพัฒนาในเรื่องนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทำให้ผู้ใช้งานสมาร์โฟนสามารถใช้งานได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องแบตเตอรี่ และยังสามารถเลือกชาร์จแบตในเวลาใดก็ได้

4. การปิดเครื่องไม่ได้ช่วยให้ประหยัดแบตเตอรี่ได้

ส่วนใหญ่แล้วผู้ใช้งานสมาร์ทโฟนหลายๆ คนจะเปิดใช้งานแอพพลิเคชั่น และมักจะไม่ชอบปิดแอพฯ แบบไม่ถูกต้อง หลังจากใช้งานเสร็จ (ปิดจาก Multitasking) ซึ่งผู้ใช้งานอาจจะไม่ทราบว่าการปิดแอพพลิเคชั่นแบบผิดวิธี แอพฯที่ได้เปิดใช้งานไปเมื่อก่อนหน้านี้จะยังคงทำงานอยู่อย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจะทำการปิดเครื่องก็ตาม แต่การปิดเครื่องก็ไม่ได้ช่วยทำให้ประหยัดแบตเตอรี่ได้อย่างที่คิดกัน หากไม่มีการปิดโปรแกรมอย่างสมบูรณ์ก่อน

5. ไม่ควรใช้สายชาร์จที่ไม่มีแบรนด์ ราคาถูกๆ

อุปกรณ์ที่ใช้ในการชาร์จไฟในราคาที่ถูกและไม่มีแบรนด์ อาจจะสร้างความเสียหายที่ไม่คาดคิดให้กับสมาร์โฟนของคุณได้ เพราะสายชาร์จหรืออุปกรณ์เสริมในการชาร์จแบตเตอรี่ของสมาร์โฟนที่ไม่มีแบรนด์อาจจะไม่ได้รับมาตรฐาน และจ่ายไฟแบบไม่คงที่ ซึ่งในเรื่องนี้จะทำให้เกิดผลกระทบกับโทรศัพท์มือถือเป็นอย่างมาก ถึงแม้ว่าจะไม่เห็นผลในทันที่ แต่หากยังคงใช้งานต่อไปก็ไม่ดีอย่างแน่นอน

6. แอพพลิเคชั่น Facebook ทำแบตเตอรี่ลดเร็ว 20%

การใช้งานแอพพลิเคชั่น Facebook ถือเป็นการดูดทรัพยากรภายในเครื่องเป็นอย่างมาก ทั้งที่กำลังใช้งานและไม่ได้ใช้งาน เพราะแอพฯ นี้ จะมีการรีเฟรชฟีด, อัพเดต, อยู่ตลอดเวลา ซึ่งหากไม่ได้ปิดการใช้งานอย่างสมบูรณ์ ก็อาจจะทำให้สมาร์ทโฟนทำงานหนักจนเกินไป

โดยมีรายงานว่า หากสมาร์ทโฟนของคุณลบแอพฯ Facebook ออกจากตัวเครื่อง จะสามารถทำให้แอพพลิเคชั่นอื่นๆ ทำงานได้อย่างรวดเร็วขึ้นถึง 15% และยังสามารถช่วยประหยัดพลังงานได้มากกว่า 20 เปอร์เซ็นต์ อีกด้วย

7. เปิดโหมด WiFi ทิ้งไว้ ไม่ทำให้เปลืองแบตฯ อย่างที่คิด

หากสมาร์ทโฟนของคุณได้มีการเปิดโหมด WiFi ทิ้งไว้ สมาร์ทโฟนจะทำการค้นหาสัญญาณอินเตอร์เน็ตในบริเวณรอบๆ อยู่ตลอดเวลาก็จริง แต่ได้มีการวิจัยจากเทคโนโลยีใหม่ ก็บ่งบอกได้อย่างชัดเจนว่า การเปิดโหลด WiFi ทิ้งไว้ไม่ได้ทำให้แบตเตอรี่ในเครื่องลดลงอย่างรวดเร็วขนาดนั้น ทำให้ไม่จำเป็นที่จะปิดทุกครั้งหลังจากใช้งานเสร็จก็ได้

8. ไม่ควรชาร์จแบตฯ ตามจุดชาร์จสาธารณะ

หลายๆ คนมักจะชอบชาร์จแบตโทรศัพท์มือถือตามสถานที่จุดชาร์จต่างๆ ที่ไม่ว่าจะเป็น ร้านอาหาร, ห้างสรรพสินค้า, หรือแม้แต่สนามบิน ซึ่งนั่นไม่ได้การันตีในเรื่องของความปลอดภัยอย่างที่คิด เนื่องจากจะทำให้บรรดา Hacker สามารถเข้าถึงข้อมูลของได้ง่ายยิ่งกว่าปกติ ซึ่งหากผู้ใช้งานมีความต้องการที่จะชาร์จแบตฯ ตามสถานที่สาธารณะก็ควรที่จะใช้เป็น Power Bank เพราะนั่นถือเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด

จะเห็นได้ชัดว่าในแต่ละปีการพัฒนาของเทคโนโลยีจะก้าวกระโดดมากยิ่งขึ้น ทำให้การใช้งานสมาร์ทโฟนของคุณมีความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น และไม่จำเป็นที่จะต้องมานั่งถนอมการใช้งานของแบตเตอรี่มากจนเกินไป